วิธีดูแลสุขภาพช่องฟันและช่องปาก สำหรับเด็ก

บล็อก WordPress
เรื่อง วิธีดูแลสุขภาพฟันและช่องปาก สำหรับเด็ก




วันนี้เอาใจสมาคมคุณแม่ค่ะ หมอมีวิธีดูแลสุขภาพฟันและช่องปาก สำหรับเด็กในวัยต่างๆ มาฝากค่ะ เพียงปฏิบัติตามคำแนะนำง่ายๆเหล่านี้ เจ้าตัวเล็กที่บ้านก็จะเป็นหนูน้อยฟันสวยได้ค่ะ

เด็กแรกเกิด – อายุ 6 เดือน
1.ให้เด็กกินนมแม่ดีที่สุด หากกินนมขวด อย่าผสมน้ำตาลหรือน้ำผึ้ง เพราะจะทำให้เด็กติดรสหวาน
2.ทำความสะอาดช่องปากวันละ 2 ครั้ง โดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำต้มสุกเช็ดเบาๆ ที่เหงือก กระพุ้งแก้ม และลิ้น
3.ให้เด็กกินนมเป็นมื้อ และควรให้เลิกนมตอนกลางคืนเมื่อเด็กอายุครบ 6 เดือน


เด็กอายุ 6 เดือน – 1
1. เด็กวัยนี้ไม่ควรให้นมเวลาเด็กนอนหลับ
2. เริ่มฝึกให้เด็กดื่มนมจากแก้วหรือดูดจากหลอด
3. ไม่ควรให้เด็กดื่มเครื่องดื่มที่มีรสหวาน หรือน้ำผลไม้โดยใช้ขวดนม
4. เมื่อฟันเริ่มขึ้น ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำต้มสุกเช็ดเบาๆ ที่ฟัน เหงือก กระพุ้งแก้ม และลิ้น
5. เมื่อฟันขึ้นเต็มซี่ อาจเริ่มใช้แปรงสีฟันที่มีขนนิ่มแปรงฟันให้เด็ก


เด็กอายุ 1 ปี – 1 ปีครึ่ง
1. ให้เด็กเลิกดูดขวดนม แต่ให้ดื่มนมจากแก้ว หรือใช้หลอดดูดแทน ดื่มนมรสจืดเท่านั้น
2. ให้เด็กกินอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อ อย่าให้ดื่มนมมากจนกินอาหารหลักได้น้อย นมเป็นเพียงอาหารเสริม
3. ไม่ควรใช้ปากเป่าอาหารป้อนให้เด็ก หรือใช้จาน ช้อน ส้อม แก้วน้ำ ร่วมกับเด็ก
4. ควบคุมเรื่องขนมหวานที่มีลักษณะเหนียวติดฟันในช่วงอาหารระหว่างมื้อ
5. แปรงฟันให้เด็กอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ตอนเช้าและก่อนนอน


เด็กอายุ 1 ปีครึ่ง – 3 ปี
1. เด็กวัยนี้จะเริ่มมีฟันกรามน้ำนมขึ้น และจะทยอยขึ้นจนครบ 20 ซี่ ให้ใช้แปรงสีฟันขนนิ่มแปรงฟันให้เด็ก วันละ 2 ครั้ง ตอนเช้าและก่อนนอน
2. อาจเริ่มฝึกให้เด็กแปรงฟันเอง แล้วผู้ปกครองช่วยแปรงซ้ำให้ทั่วทุกซี่ทุกด้านของฟัน
3. เมื่อฟันหลังเริ่มเบียดชิดกัน ผู้ปกครองควรใช้ไหมขัดฟันขัดซอกฟันให้เด็กวันละครั้งก่อนนอน
4. ฝึกให้เด็กกินอาหารเป็นเวลา ไม่กินจุบจิบ
5. เลือกอาหารว่างที่มีประโยชน์ เช่น ผลไม้ หลีกเลี่ยงขนมหวานที่มีลักษณะเหนียวติดฟัน
6. เด็กวัยนี้ควรเลิกนมขวดได้แล้ว
เด็กอายุ 3 ปี – 5 ปี
1. ให้เด็กแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ แตะที่ขนแปรงเป็นจุดพอชื้น แปรงวันละ 2 ครั้ง ตอนเช้าและก่อนนอน แล้ว ผู้ปกครองช่วยแปรงซ้ำให้
2. ผู้ปกครองใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดบริเวณซอกฟันให้เด็กวันละ 1 ครั้งก่อนนอน
3. เลือกอาหารว่างที่มีประโยชน์ เช่น ผลไม้ หลีกเลี่ยงขนมหวานที่มีลักษณะเหนียวติดฟัน หากทานขนมควรทานหลังอาหารมื้อหลัก ไม่ควรทานจุบจิบ
4. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีรสหวาน หรือมีความเป็นกรด เช่น น้ำหวาน น้ำอัดลม

ขอขอบคุณข้อมูลจาก ทพญ.พรศริน โตวิศิษฐ์ชัย กลุ่มงานทันตกรรม รพ.บางบ่อ ขอบคุณมากๆค่ะ

>ปรึกษาทันตแพทย์ ติดต่อสอบถามได้ที่นี่

ปรึกษาทันตแพทย์ ติดต่อสอบถามได้ที่นี่