การจัดฟัน

          การจัดฟันเป็นหนึ่งในวิธีรักษาทางทันตกรรมซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบันกันเลยที่เดียวนะคะ นอกจากจะช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก เช่น ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันไม่สบกัน ได้แล้ว การจัดฟันยังช่วยปรับโครงหน้าของผู้จัดฟันให้เข้ารูปได้ด้วยล่ะค่ะ ดังนั้นการจัดฟันจึงช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและช่วยปรับปรุงบุคลิกภาพให้ดียิ่งขึ้นได้ด้วยนะคะ

การจัดฟันคืออะไร?

          การจัดฟันเป็นวิธีช่วยแก้ไขปัญหาฟันที่มีการเรียงตัวผิดปกติ ไม่สมดุล ให้เรียงตัวกันอย่างเหมาะสม สบฟันได้ตามปกติ รวมทั้งตำแหน่งขากรรไกรมีความเหมาะสม ไม่เพียงเท่านั้นการจัดฟันยังเป็นการป้องกันความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับช่องปากในอนาคตได้ด้วย 

punnawithiskytraindental

         

          การจัดฟันเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของฟันด้วยการใช้เครื่องมือภายนอกและภายในช่องปาก เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดการปรับแต่งโครงสร้างของฟันใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยปกติแล้วการเคลื่อนตัวของฟันจะมีอัตรา 1 มิลลิเมตร ต่อ 1 เดือน 

ทำไมต้องจัดฟัน?

i.ytimg

 

          เนื่องจากฟันของแต่ละคนมีขนาด รูปร่าง และการเรียงตัวที่แตกต่างกัน โดยมีพันธุกรรมเป็นตัวกำหนด บางครั้งฟันอาจเรียงตัวไม่เหมาะสมจนเกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพช่องปาก เช่น ทำความสะอาดฟันลำบาก มีปัญหาเรื่องการบดเคี้ยว เป็นต้น การจัดฟันจะช่วยทำให้สุขภาพช่องปากดีขึ้น ช่วยให้การบดเคี้ยวอาหารมีประสิทธิภาพ รวมถึงช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเกิดฟันผุ หรือโรคเหงือกได้ด้วย

          นอกจากนี้การจัดฟันยังช่วยแก้ปัญหาช่องปากอื่นๆ ได้อีก เช่น เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาโรคปากแหว่งเพดานโหว่ หรือช่วยในเรื่องภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โดยทันตแพทย์จะใส่เครื่องมือในช่องปากเพื่อให้ทางเดินหายใจกว้างขึ้นและไม่ถูกอุดกั้นขณะหลับ เพื่อป้องกันไม่ให้ลิ้น หรือเนื้อเยื่อในลำคอหย่อนลงไปอุดกั้นทางเดินหายใจขณะหลับ

ปัญหาของฟันที่ทำให้ต้องมีการจัดฟัน

judfun.simdif

 

ฟันหน้ายื่น เป็นสาเหตุที่พบเห็นได้มากที่สุด

ฟันซ้อน มักเกิดกับผู้ที่มีโครงกรามแคบมัก ทำให้พื้นที่ในช่องปากไม่กว้างพอสำหรับฟัน ส่งผลให้ฟันภายในช่องปากซ้อนทับกัน

ฟันไม่สมมาตรกัน บางคนมีจุดศูนย์กลางของฟันบนและฟันล่างไม่ตรงกันทำให้ฟันทั้งสองแถวไม่สามารถสบกันได้สมบูรณ์จนทำให้ดูเหมือนฟันเก และมีปัญหาด้านการบดเคี้ยว

ฟันสบลึก ฟันแถวบนเลยหน้าฟันกรามมากเกินไปจนบังฟันล่างมิด

ฟันสบกลับ ฟันแถวบนสบอยู่ข้างหลังฟันล่าง

ฟันสบเปิด คือ การที่ฟันบนและฟันล่างไม่สบกันแม้จะปิดปากแล้ว ภาวะเช่นนี้มักเกิดมาจากการที่เด็กดูดหัวแม่มือตัวเองมาเป็นเวลานาน ๆ

ฟันคุด เป็นฟันแท้ที่ไม่งอกออกมา หรืออยู่ในตำแหน่งผิดที่ผิดทาง หากงอกขึ้นมาอาจส่งผลกระทบต่อฟันซี่อื่นๆ ได้

ควรเริ่มจัดฟันเมื่อไหร่?

          การจัดฟันสามารถทำได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่จะเริ่มที่อายุประมาณ 11 – 13 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่ฟันแท้ขึ้นครบแล้ว ส่วนระยะเวลาการจัดฟันขึ้นอยู่กับลักษณะฟันของแต่ละบุคคล ส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 18 – 24 เดือน ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาและความร่วมมือของผู้ป่วย เช่น การรักษาความสะอาดของเครื่องมือจัดฟันและช่องปาก หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแข็ง เหนียว และกรอบ เพราะเสี่ยงต่อการทำเครื่องมือจัดฟันเสียหาย การมาพบทันตแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอเพื่อปรับเครื่องมือจัดฟันให้สอดคล้องกับการเคลื่อนตัวของฟัน

          กรณีที่ผู้ต้องการจัดฟันมีอายุมากกว่า 25 ปีขึ้นไป อาจจำเป็นต้องใส่เครื่องมือนานกว่าปกติเพราะการเคลื่อนตัวของฟันจะช้ากว่าผู้มีอายุน้อย อีกทั้งยังมีโอกาสเหงือกร่นมากกว่าด้วย หลังจัดฟันเสร็จผู้ป่วยกลุุ่มนี้ยังต้องใส่รีเทนเนอร์เพื่อช่วยรักษาสภาพฟันที่จัดแล้วให้นานกว่าปกติด้วย

รูปหน้ากับการจัดฟัน

apexprofoundbeauty

บางครั้งการจัดฟันก็จะทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไป ซึ่งเกิดขึ้นได้จากสาเหตุดังต่อไปนี้

  1. การเจริญเติบโตของใบหน้า โดยทั่วไปแล้วขนาดของขากรรไกรจะถูกกำหนดโดยพันธุกรรม แต่เมื่อมีการจัดฟันอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของใบหน้าได้ โดยจะมีผลเฉพาะในช่วงที่ขากรรไกรไม่โตเต็มที่ (ผู้หญิงใบหน้าจะโตเต็มที่เมื่อมีอายุ 14 – 16 ปี ส่วนผู้ชายคือ 18 ปี) แต่จะยับยั้งการเติบโตของขากรรไกรบนได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นเพราะหลังจากช่วงวัยรุ่นไปแล้ว ใบหน้าและขากรรไกรจะไม่มีการเจริญเติบโต
  2. ผลต่อรูปปาก เนื่องจากการจัดฟันจะทำให้ฟันมีการเคลื่อนตำแหน่ง จากด้านหน้าไปยังหน้าหลัง ดังนั้นจึงทำให้มีผลต่อรูปทรงของริมฝีปาก
  3. ขากรรไกร บางกรณีอาจต้องมีการผ่าตัดขากรรไกร ดังนั้นอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปร่างขากรรไกรได้

ขั้นตอนการจัดฟัน

  • ตรวจสุขภาพก่อนจัดฟัน 

          เนื่องจากการจัดฟันจะเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดปัญหาฟันผุ หรือปัญหาสุขภาพช่องปากอื่นๆ ได้ ดังนั้นก่อนการจัดฟันทุกครั้งต้องมีการตรวจสุขภาพช่องปากและฟันอย่างละเอียด ถ้ามีฟันผุต้องอุดเสียก่อน จากนั้นทันตแพทย์จะขัดหินปูนและเคลือบร่องฟันที่มีหลุมลึกเพื่อป้องกันฟันผุในขณะจัดฟัน หากมีโรคเหงือกต้องรีบรักษา บางกรณีอาจต้องถอนฟันบางซี่ออกเพื่อปรับตำแหน่งฟันให้สมมาตรกันทั้งบนและล่างรวมทั้งเพื่อรูปร่างที่ดีของฟันเคียงข้าง

  • การจัดฟัน

          หลังจากตรวจสุขภาพฟันและรักษาจนผู้เข้ารับการจัดฟันมีสุขอนามัยช่องปากดีแล้ว ทันตแพทย์จะเริ่มประเมินลักษณะ รูปร่าง การจัดเรียงของฟัน ตรวจดูลักษณะของรากฟัน กระดูกที่รองรับบริเวณรากฟัน และลักษณะโครงสร้างใบหน้าโดยรวม ซึ่งมักใช้การเอกซเรย์ 360 องศา ปั้นแบบจำลองช่องปากพลาสติก และถ่ายภาพฟันไว้ จากนั้นจะจะประเมินว่า ควรใช้เครื่องมือจัดฟันรูปแบบใดซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของฟัน ลักษณะกรามของแต่ละคน รวมทั้งความพึงพอใจในเครื่องมือจัดฟันแต่ละประเภท

          จากนั้นทันตแพทย์จะนัดติดเครื่องมือจัดฟันพร้อมทั้งแนะนำวิธีการดูแลฟันหลังจากติดเครื่องมือแล้ว ในระหว่างที่จัดฟันผู้จัดฟันจะต้องได้รับการตรวจทำความสะอาดฟันเป็นระยะ

  • หลังจัดฟัน

          หลังจากนั้นทุกๆ เดือน ทันตแพทย์จะนัดปรับเครื่องมือจัดฟัน เพื่อให้แนวฟันค่อยๆ เคลื่อนเข้าในจุดที่ต้องการ

ข้อควรปฏิบัติในระหว่างการจัดฟัน

  1. หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารแข็ง เหนียว และกรอบ เช่น น้ำแข็ง ปลาหมึก ถั่ว ลูกอม และหมากฝรั่ง ฯลฯ
  2. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหวานๆ หรือเครื่องดื่มอัดลม
  3. ควรรับประทานอาหารอ่อนๆ เคี้ยวง่าย
  4. การการรับประทานผักผลไม้ควรตัดแบ่งออกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วเคี้ยวด้วยฟันกรามข้างหลัง
  5. ในระยะแรกของการจัดฟันมักจะเจ็บและมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นในช่องปาก เช่น กระพุ้งแก้มเป็นแผล อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ทั้งนี้สามารถบรรเทาอาการระคายเคืองเหล่านี้ด้วยการใช้ขี้ผึ้งที่ได้รับจากทันตแพทย์มาทาปิดไว้ก็จะช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น
  6. ถ้าหากมีลวดเส้นเล็กๆ แทงริมฝีปาก หรือแก้ม ให้ใช้ยางลบดินสอเช็ดแอลกอฮอล์ แล้วกดปลายลวดเข้าไป หรือใช้ขี้ผึ้งที่ได้รับจากทันตแพทย์มาหุ้มปลายลวดไว้
  7. แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร
  8. ในระหว่างจัดฟันควรพบทันตแพทย์เพื่อปรับเครื่องมือจัดฟันใหม่ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
  9. ควรพบทันตแพทย์ขูดหินปูนเพื่อทำความสะอาดฟันและตรวจฟันผุทุกๆ 6 เดือน

          ทั้งนี้ผู้ที่จัดฟันจะมีโอกาสเกิดฟันผุมากขึ้น เนื่องจากมีเครื่องมือจัดฟันบดบังอยู่ตลอดทั้งแนวฟันจึงไม่สามารถทำความสะอาดฟันได้อย่างสะอาดหมดจด จนเชื้อแบคทีเรียในช่องปากเกิดการสะสมผสมกับเศษอาหารตกค้างและน้ำลาย เกิดการสร้างแผ่นเหนียวๆ ที่เรียกว่า “คราบจุลินทรีย์” เข้าไปเกาะตัวฟันจนทำให้ชั้นเคลือบฟันถูกทำลายไป สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ระหว่างการจัดฟันต้องดูแลรักษาฟันมากกว่าเดิม

          ดังนั้นหากคิดจะจัดฟันจำเป็นต้องมีวินัยในการดูแลความสะอาดของฟัน เหงือก เครื่องมือจัดฟัน และต้องไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ไม่ใช่คิดแค่ว่า จัดฟันตามแฟชั่น หรือจัดฟันตามกระแสเท่านั้น เพราะหากคิดเช่นนี้ นอกจากจะเจ็บตัวเปล่าๆ เสียเงินฟรีๆ แล้วยังอาจก่อปัญหาทางช่องปากอื่นๆ ตามมาได้

**************************************************************************************************************

เป็นไงกันบ้างคะ อ่านแล้วตัดสินใจอยากจัดฟันเลยไหมเอ่ย😊😊😊

อย่างไรแล้วหมั่นเช็คสภาพช่องปากและฟันด้วยนะคะ😁😁😁

ด้วยความปรารถนาดีจาก คลินิกทันตกรรมโยซึบะ😘😘😘

เครดิต honestdocs

>ปรึกษาทันตแพทย์ ติดต่อสอบถามได้ที่นี่

ปรึกษาทันตแพทย์ ติดต่อสอบถามได้ที่นี่